อาการไส้ติ่งอักเสบ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนซึ่งวิธีรักษาก็คือการผ่าตัดแต่หาก ไส้ติ่งอักเสบตอนท้อง ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องระวัง และใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะจะรักษาค่อนข้างยาก แถมยังเป็นอันตรายทั้งกับคุณแม่ และลูกในครรภ์ ดังนั้นเราจึงรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ มาแนะนำกัน
ไส้ติ่งอักเสบตอนท้อง ส่งผลกระทบคุณแม่ และลูกอย่างไรบ้าง
อาจทำให้แท้ง – การเป็นไส้ติ่งอักเสบตอนตั้งครรภ์อ่อน ๆ หากไส้ติ่งแตกหนองจะกระจายไปทั่วท้องทำให้มดลูกบีบตัวจนแท้งได้
คลอดก่อนกำหนด – การรักษาไส้ติ่งอักเสบขณะตั้งท้อง อาจจะส่งผลให้คลอดก่อนกำหนดได้
การวิเคราะห์อาการทำได้ยาก – นั่นก็เป็นเพราะว่าท้องที่ใหญ่ขึ้นจะไปบังไส้ติ่ง และมดลูกที่โตขึ้น ทำให้ตำแหน่งไส้ติ่งคลาดเคลื่อนไปด้วย
อาการแทรกซ้อน – อาจทำให้โรคไส้ติ่งอักเสบมีอาการคล้ายโรคอื่นเช่น โรคนิ่ว
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ
การวินิจฉัยว่าเป็น ไส้ติ่งอักเสบตอนท้อง ค่อนข้างจะทำได้ยาก จึงต้องใช้ความชำนาญจากแพทย์ เพราะจะไม่ปวดปวดท้องด้านล่างขวาเหมือนผู้ป่วยทั่วไป แต่วิธีสังเกตอาการก็เหมือนกับผู้เป็นไส้ติ่งอื่น ๆ เช่น มีอาการคลื่นไส้ เบื่ออาหาร แน่นท้อง หากอาการรุนแรงมากขึ้นก็จะมีไข้ ปวดรุนแรงที่ในระยะนี้มีอันตรายต่อทั้งแม่และลูกอย่างมาก ควรต้องรับไปพบแพทย์โดยด่วน
การรักษา ไส้ติ่งอักเสบตอนท้อง
การรักษาไส้ติ่งอักเสบตอนตั้งครรภ์ ก็จะใช้วิธีการผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกเหมือนการรักษาทั่วไป แต่หากอายุครรภ์มากขึ้นการรักษาก็จะมีความแตกต่างออกไป
- หากอายุครรภ์อยู่ในช่วง 1-2 ไตรมาสแรกหมอจะวางยาสลบ แล้วอาจจะมดลูกเพื่อให้ง่ายต่อการผ่าตัด แต่ก็อาจจะทำให้คลอดก่อนกำหนดได้
- หากอายุครรภ์อยู่ในไตรมาสที่ 3 ขึ้นไป คุณหมอก็จะวางยาสลบแล้วผ่าไส้ติ่งออก พร้อมกับผ่าคลอดในคราวเดียวกันไปเลย
เตรียมตัวเข้ารับการตรวจ ไส้ติ่งอักเสบตอนท้อง
หากคุณแม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นไส้ติ่งอักเสบ หากต้องการให้หมอทำการวินิจฉัยก่อนไปตรวจ ควรงดน้ำ อาหาร และยาแก้ปวด เพื่อลดการบดบังอาการ หากจำเป็นต้องผ่าตัดด่วนการงดน้ำ งดอาหาร ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดได้
จะเห็นได้ว่าอาการ ไส้ติ่งอักเสบตอนท้อง มีความเป็นอันตรายอย่างมากทั้งคุณแม่ และลูกในครรภ์ อีกทั้งยังไม่มีวิธีป้องกัน ดังนั้นคุณแม่จึงควรสังเกตอาการตัวเองตลอดเวลา หากรู้สึกปวดผิดปกติ ก็ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน